วันพฤหัสบดีที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551

พันธมิตรบุกสนามบิน ตอนที่ 4

การหาที่หลับนอนในสนามบินที่กว้างใหย่ขนาดนี้จะว่าง่ายก็ง่าย จะว่ายากก็ยาก

ที่ว่าง่ายเพราะว่าสนามบินกว้างมาก คุณจะนอนตรงไหนก็ได้ แต่มันยากตรงที่ว่าสนามบินสุวรรณภูมิใช้ระบบทำความเย็นแบบหล่อน้ำเย็นตามพื้น โดยไม่ต้องใช้ท่อลมอย่างในห้างสรรพสินค้า

หลายคนคงไม่เคยนั่งบนพื้นสนามบินสุวรรณภูมิมาก่อน เพราะปกติจะมีเก้าอี้นั่งเพียงพอสำหรับทุกคน

แต่วันนี้...ไม่พอ

หลายคนนั่งพื้น นอนพื้นไม่ได้ เพราะเย็นเกินไป ก็มานอนบนเก้าอี้แทน ใครที่เคยนอนพื้นหินอ่อนกลางแจ้งที่มีลมพัดตอนฤดูหนาว คงพอเข้าใจว่ามันเย็นแค่ไหนนะครับ แล้วจะมีสักกี่คนที่พกผ้าห่มมาในกระเป๋าถือขึ้นเครื่อง? ใครใส่เสื้อผ้าหนา ก็นอนสบายหน่อย แต่ถ้าเสื้อผ้าบางก็นอนขดเอา

ผมยึดเก้าอี้ได้ 1 ตัวนั่งสับประหงกจนกระทั่งประมาณตี 1 ครึ่งก็ได้พบ "น้ำใจของการบินไทย" นำน้ำและขนมมาแจกผู้โดยสารของการบินไทย ซึ่งอันที่จริงแล้วก็ไม่ได้แยกแยะสายการบินหรอกครับ ไม่มีการถามหาบอร์ดดิงพาส ว่าเป็นสายการบินไหน แล้วก็ประกาศว่าข้างล่างมีแจกน้ำกับแวนด์วิชอีก ขอให้ผู้โดยสารของการบินไทยลงไปรับได้

ผมเดินลงไปบริเวณทรานสิท ก็พบเจ้าหน้าที่การบินไทยประมาณ 10 คนกำลังขะมักเขม้นกับการแจกน้ำแจกขนมให้ผู้โดยสาร ซึ่งก็แยกกันไม่ออกหรอกว่าเป็นของสายการบินไหน ปากก็ร้องบอกว่าคนละ 1 ชิ้นนะคะ / นะครับ แต่ผู้โดยสารหลายคนก็หยิบไปมากกว่านั้น บ้างก็อ้างว่ามีกัน 2 คน บางคนรวบน้ำเปล่าไป 6 ขวดไม่พูดอะไรซักคำ

ผมกินแวนด์วิชและน้ำเสร็จก็สอบถามทางเจ้าหน้าที่จึงทราบว่า ผมสามารถไปขอยกเลิกตั๋วเครื่องบินได้ที่ตม. หลังรูปเกษียรสมุทร

ผมดีใจขึ้นมาทันที เพราะนั่นหมายถึงผมมีโอกาสจะได้กลับบ้านแล้ว

คนในสนามบินเตือนผมว่าพันธมิตรเขายึดสนามบินแล้ว จะออกไปยังพอไปได้ แต่จะต้องค่าแทกซี่จะแพงหน่อย

ผมมองกลับไปที่เคาน์เตอร์การบินไทยอีกครั้ง ขนมชุดใหม่ถูกนำมาวางอีก คราวนี้มาหยิบกันทีละชิ้น ไม่หยิบมากเหมือนชุดก่อน คงจะเริ่มรู้แล้วว่าการบินไทยมีขนมเยอะจริง ๆ

ผมนึกถึงคำพูดของท่านมหาตมะ คานธี ที่ว่า
โลกนี้มีทรัพยากรเหลือเฟือให้มนุษย์ทุกคนใช้อย่างพอเพียง แต่มีไม่พอสำหรับคนโลภเพียงคนเดียว

เอาล่ะ ผมจะได้กลับออกไปข้างนอกแล้วนะ

1 ความคิดเห็น:

Thep กล่าวว่า...

เพิ่งได้เข้ามาอ่าน blog ชุดนี้.. ประทับใจตอนนี้ เพราะสะท้อนความยากลำบากของผู้โดยสารมากที่สุด ทั้งตัวเองก็เคยไปติดที่สนามบินนาริตะทั้งคืน คืนนั้นหิมะลงจัด ทุกเที่ยวบินช้าไปหมด เพราะลงจอดไม่ได้ พอเข้าถึงตัวอาคาร ก็เจอผู้โดยสารติดแหง็กในสนามบินกันเป็นแถว ก็ต้องหาที่นอนกันจนกว่าจะเช้า ก็ได้รับน้ำใจจาก Japan Airline เป็นถุงนอนมาแจกผู้โดยสารโดยไม่แยกสายการบิน แล้วแต่ละคนก็หาที่เหมาะ ๆ นอนบนพื้นกัน พอดีเจอคนพม่าที่จะมางานประชุมเดียวกัน เลยแบ่งของว่างกันกินแล้วก็นอน เป็นความประทับใจอย่างหนึ่งในต่างแดน แต่ก็ไม่อยากเจออีก คืนนั้นทั้งคืนก็นอนคุยกันว่าเช้าจะเอาไงต่อ และก็บ่นเรื่องรถที่ทำไมไม่บริการตลอดคืน ชาวพม่าเขายังว่าถ้าเป็นที่ Bangkok ไม่มีทางเป็นอย่างนี้เด็ดขาด

แต่ครั้งนั้นก็โทษอะไรมากไม่ได้ เพราะเป็นเหตุสุดวิสัยจากธรรมชาติ ไม่ใช่การกระทำของมนุษย์.. ผมไม่รู้ว่าครั้งนี้ที่สุวรรณภูมิ เขาจะก่นด่าประเทศไทยไปถึงไหนต่อไหน..

ขอร่วมประณามการกระทำอันไร้สำนึกของพันธมิตร